รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
(คำถามต่อไปมาจาก ดร.จอห์นสัน ชาร์เลอมาญ ท่านเป็นแพทย์อายุรศาสตร์ทั่วไป ที่โรงพยาบาลนักบุญโจเซฟ โรงพยาบาลไพรเวตเจนเนอรัล) ยินดีต้อนรับค่ะท่าน Dr Johnson Charlemagne: ขอบพระคุณมากครับ ท่านอาจารย์ที่รัก ก่อนอื่นขอฝากคำทักทายอันจริงใจ และขอแสดงความยินดี จากผมด้วย สำหรับงานอันทรงเกียรติในขณะนี้ ท่านคงจินตนาการได้ว่า คำถามของผมจะเกี่ยวข้อง กับอาชีพของผม ท่านคงทราบอยู่แล้วว่า โรคมาลาเรีย โรคเอดส์ และวัณโรค ทำให้ประชากรชาวแอฟริกัน มีอัตราการเสียชีวิตสูง ท่านช่วยบอกเราเกี่ยวกับประโยชน์ ของการทานวีแกน ที่มีต่อสุขภาพของผู้ป่วยเหล่านี้และ ต่อประชากรโดยทั่วไปได้หรือไม่ครับ ขอบพระคุณมากครับ Master: ขอบคุณมากค่ะ คุณหมอ ดร.จอห์นสัน ฉันรู้สึกเป็นเกียรติ ที่ได้พูดคุยกับคุณ สำหรับผู้ที่กำลังป่วยเป็นโรคอยู่ การทานวีแกน สามารถช่วยได้ เนื่องจากมันช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และไม่มีสารพิษ อย่างเช่น เนื้อ (ชาวสัตว์) การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ได้เผยให้เห็นว่า เนื้อแดง (ชาวสัตว์) มีสารชนิดหนึ่ง ที่ดึงดูดโรค เช่น แบคทีเรียอีโคไล ที่จะเข้ามาโจมตีร่างกาย และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ขณะที่อาหารวีแกน จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ในการป้องกันโรคต่าง ๆ ดังนั้นการเปลี่ยนมาเป็นวีแกน จึงสามารถช่วยเสริมสร้าง และทำให้ร่างกาย แข็งแรงได้ค่ะ คุณหมอ ในกรณีของมาเลเรีย มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งในกานา ที่ชาวอิสราเอล เชื้อสายแอฟริกันในเยรูซาเล็ม ได้จัดทำโครงการฟื้นฟูสุขภาพ โดยร่วมมือกับ กระทรวงสาธารณสุขของกานา ในโครงการสุขภาพนี้ ชาวบ้านหลายร้อยคน หันมาทานวีแกน ทำเกษตรกรรมแบบวีแกน และใช้ชีวิต ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก่อนหน้านี้หมู่บ้านแห่งนี้ มีอัตราการเสียชีวิตของทารก สูงมากถึงเกือบร้อยละ 30 ชาวบ้านป่วยเป็นมาเลเรีย ปีละ 2-3 ครั้ง แต่เมื่อหมู่บ้าน กลายเป็นวีแกนมากขึ้น ทารกทุกคนก็ยังมีชีวิตอยู่ และเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ที่ไม่มี ผู้ป่วยมาเลเรียเลย และผู้ป่วยโรคเอดส์ ก็สามารถฟื้นตัวได้ดีขึ้น ด้วยภูมิคุ้มกัน ที่แข็งแรงขึ้น จากการทานวีแกน ดังนั้นผู้ที่เป็นวีแกน จึงไม่ค่อยกลัว ที่จะป่วยเป็นโรค มันเป็นโล่ป้องกันสองชั้น ไม่เพียงแต่ ในแง่กายภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในแง่จิตวิญญาณ ที่มองไม่เห็นด้วย กรุณาแจ้งข้อมูลนี้ ให้คนไข้ของคุณทราบ ขอบคุณค่ะ คุณหมอจอห์นสัน ขอพระเจ้า อวยพรคุณและคนไข้ของคุณ (ขอบพระคุณครับ ท่านอาจารย์) (คำถามที่สองมาจาก มาดามทัปโซบา คริสติน ซึ่งเป็นครูโรงเรียนมัธยมปลาย เจ้าของร้านอาหารมังสวิรัติสองแห่ง ในวากาดูกู สมาชิกสมาคมมากมาย และเป็นวีแกน) ยินดีต้อนรับค่ะ มาดาม (ขอบพระคุณท่าน คำถามของฉันก็คือ ในหนังสือ เรื่องราว และเอกสารวิชาการต่าง ๆ ยังมีงานเขียนอีกมากมาย ที่คัดค้านแนวคิดวีแกน ดังนั้น ท่านอาจารย์โปรดช่วย แนะนำวิธีให้ความรู้ แก่เด็กนักเรียนเกี่ยวกับการทานวีแกน ในสถานการณ์นี้อย่างไรด้วย? ขอบพระคุณค่ะ) Master: ขอบคุณค่ะ คุณทัปโซบาผู้สูงส่ง มันเป็นงานใหญ่และสูงส่ง คุณเป็นครู (ใช่ค่ะ) คุณทัปโซบา และเจ้าของร้านอาหารมังสวิรัติ คุณต้องเป็นผู้หญิงที่ยุ่งมากแน่ ๆ! ฉันประทับใจมาก กับความทุ่มเทของคุณ ฉันยังรู้สึกมั่นใจมากว่า คุณจะหาวิธีช่วย ให้คนรุ่นเยาว์ ได้ใช้ชีวิตที่เป็นมิตรต่อ (ชาว) สัตว์ และคนอย่างสมบูรณ์ เราจะมาแบ่งปันแนวคิดบางประการ ที่คุณอาจไม่เคยคิดถึงมาก่อน: แน่นอนว่าเป็นความคิดที่ดีมาก ที่จะแนะนำให้เด็ก ๆ รู้จักประโยชน์ของการทานอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและยั่งยืน ตั้งแต่ยังเล็ก วิธีหนึ่งที่จะทำเช่นนั้นได้ ก็คือเราสามารถแนะนำ เนื้อหาที่เป็นมิตรกับ (ชาว) สัตว์ ซึ่งยังเป็นวีแกน อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีข้อมูลวีแกน มากมายให้เลือก ทั้งแบบออนไลน์และแบบสิ่งพิมพ์ ดังนั้น คุณสามารถ เลือกหนังสือนิทานสำหรับเด็ก ที่มีตัวละครหลัก เป็น (ชาว) สัตว์ ภาพยนตร์สามารถช่วยให้ (ชาว) สัตว์ มีชีวิตขึ้นมาได้อย่างมาก ยังมีภาพยนตร์หลายเรื่อง ที่นำเสนอภาพ (ชาว) สัตว์ ที่น่ารักด้วย ในส่วนของอาหาร คุณสามารถทำให้ การทานผักเป็นเรื่องสนุกและเท่ได้ การศึกษาหนึ่งพบว่า การตั้งชื่อผลไม้และผัก ต่าง ๆ เช่น “ถั่วจอมพลัง” หรือ “มะเขือเทศระเบิด” จะช่วยเพิ่มความนิยม ในหมู่เด็ก ๆ ดังนั้น คุณยังสามารถ ช่วยปลูกฝังธรรมชาติแห่งรัก ให้แก่เด็ก ๆ ได้ โดยการทัศนศึกษา ที่ฟาร์ม (ชาว) สัตว์ ซึ่งเด็ก ๆ จะได้มีปฏิสัมพันธ์ กับ (ชาว) สัตว์ และเห็นว่าพวกเขาน่ารักแค่ไหน เด็ก ๆ เองก็เคยพูดว่า เมื่อพวกเขาได้รู้จัก (ชาว) สัตว์ เหล่านั้นแล้ว พวกเขาไม่สามารถกินพวกเขาได้ อีกต่อไป เพราะพวกเขาตระหนักว่า (ชาว) สัตว์เหล่านั้น คือเพื่อนของพวกเขาและน่ารักมาก หากคุณไม่สามารถซื้อวัสดุต่าง ๆ ได้มากมาย คุณก็สามารถใช้ ความคิดสร้างสรรค์และทำขึ้นมาเอง หรือแม้กระทั่งให้เด็ก ๆ เข้าร่วม โครงการต่าง ๆ เพื่อสร้าง สิ่งที่เป็นมิตรต่อ (ชาว) สัตว์ คุณยังสามารถค้นหาผลงานเขียน ของบุคคลที่ยึดมั่นในคุณค่า ของความเมตตาและแนะนำพวกเขา ให้ลูกศิษย์ของคุณรู้จัก ในฐานะบุคคลตัวอย่าง ที่มีคุณธรรมที่พวกเขาควรชื่นชม หากคุณต้องการสื่อใด ๆ ที่สามารถ เข้าถึงได้ฟรีจาก SupremeMasterTV.com เราก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง มีรายชื่อบุคคล ตั้งแต่นักกีฬาชั้นนำ ไปจนถึงคนมีชื่อเสียง ที่เป็นมังสวิรัติหรือวีแกนด้วย บางคนที่มีชื่อเสียง ในสติปัญญา และความคิดสร้างสรรค์ ในระดับอัจฉริยะ ก็ยังยึดมั่น ในอุดมคติแห่งความเมตตา ของการเป็นวีแกนด้วย นักเรียนคงคุ้นเคยกับชื่อต่าง ๆ เช่น โสกราตีส อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เลโอนาร์โด ดา วินชี ฯลฯ ฯลฯ คุณสามารถแจ้งพวกเขาได้ว่า คนเหล่านี้เป็นมังสวิรัติด้วย นอกจากนี้ ยังมีรายการ ที่นำเสนอบุคคลตัวอย่าง นักปรัชญา และรายการทำอาหาร นานาชาติมากมายที่แสดงให้เห็นว่า การเป็นวีแกน เป็นเรื่องง่ายเพียงใด ซึ่งมีให้อย่างไม่มีค่าใช้จ่าย เด็ก ๆ จะรัก (ชาว) สัตว์ โดยธรรมชาติ และพวกเขาเข้าใจทันทีว่า อะไรคือสิ่งที่ดีเพราะพวกเขาบริสุทธิ์ และเปิดกว้าง เมื่อคุณเริ่มมองหาเนื้อหา เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ การค้นหาของคุณ ก็จะน่าตื่นเต้นไม่รู้จบ ฉันรับประกันได้เลย และเมื่อคุณตื่นเต้น ชั้นเรียนของคุณก็จะตื่นเต้นเช่นกัน ขอบคุณที่คิดถึงเด็ก ๆ และขอให้สวรรค์ อวยพรคุณ มาดามคริสติน สำหรับสิ่งที่คุณทำ เพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ และโลก (ขอบพระคุณค่ะ) ขอบคุณมากค่ะ มาดาม (ขอบพระคุณครับ ท่านอาจารย์) Interviews1: คุณได้อ่านหนังสือ “นกในชีวิตของฉัน” แล้ว (ใช่ครับ) และคำถามแรก ที่ผมจะถามคุณก็คือ คุณมอง (ชาว) สัตว์ และนก โดยทั่วไปอย่างไร? m: ผมต้องยอมรับว่า ตอนเด็ก ๆ ผมมีความผูกพันกับ (ชาว) สัตว์มาก และผมสามารถ อยู่ร่วมกับพวกเขาได้ง่าย แต่ผมไม่สามารถสื่อสาร กับพวกเขาได้ แต่เมื่อผม ได้อ่านหนังสือ “นกในชีวิตของฉัน” ผมประหลาดใจมากที่ได้พบว่า แม้ว่านกจะมีสีสัน รูปร่าง และบุคลิกภายใน ที่แตกต่างกัน แต่ (ชาว) นกก็มีภาษา ที่พูดกับ ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ มันเป็นภาษาแห่งความรัก มันเป็นภาษา แห่งความเมตตา มันเป็นภาษา แห่งการให้อภัย สิ่งที่มนุษย์อย่างเรา ๆ แสดงออกต่อกันได้ยาก และธรรมชาติที่ผมค้นพบ ใน (ชาว) สัตว์ ได้ทำให้ผมหลงใหลเป็นอย่างมาก คำถามที่สอง ที่ผมจะถามคุณ (ครับ) เป็นเรื่องเกี่ยวกับบทเรียน ที่หนังสือเล่มนี้สอนคุณ หนังสือเล่มนี้ สอนอะไรคุณบ้าง m: ใช่ครับ ท้ายที่สุดแล้ว หนังสือเล่มนี้ สอนผมว่า (ชาว) สัตว์ต่าง ๆ ตามที่เราเห็นนั้น จริง ๆ แล้วเป็นเพียงการจุติของ สิ่งมีชีวิตที่พัฒนาแล้ว พวกเขาอยู่ที่นั่น เพียงเพื่อสร้างสีสันให้กับโลกใบนี้ ที่นี่ พวกเขาแค่มีร่างกาย ที่แตกต่างไป และเราต้องรักพวกเขา เราจำเป็นต้องกลับไปสู่ วิถีการอยู่ร่วมกับพวกเขาแบบเดิม เพื่อค้นพบภาษาภายใน ในการสื่อสาร ที่มีอยู่จริง ๆ ระหว่างเรา หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว คุณมีข้อความใดอยากจะแบ่งปัน กับผู้ชมของเราบ้างครับ? m: ข้อความที่ผมอยากแบ่งปัน กับพวกเขาคือ หนังสือเล่มนี้พิเศษมาก ผมแนะนำให้พวกเขา มีหนังสือเล่มนี้ไว้เป็นของตัวเอง เพราะทุกคนจะพบว่า หนังสือเล่มนี้ มีข้อความพิเศษ ที่ทำให้พวกเขาตกใจ และคิดถึงสรรพสัตว์ทั้งหลาย ดั่งพี่น้อง และในที่สุดเราทุกคน ก็ต้องกลับคืนสู่ภาษาเดียวกัน ซึ่งเป็นภาษาแห่งความรัก ภาษาแห่ง ความเมตตา ภาษาแห่งการสื่อสารทางจิต Interviews2: มาดาม ตอนนี้หนังสือเล่มนี้ ติดอันดับหนังสือขายดี บนแอมะซอน “นกในชีวิตของฉัน” และ “สุนัขในชีวิตของฉัน” “สัตว์ป่าที่สูงส่ง” เพิ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในแอฟริกา คุณสามารถบอกเราได้ไหมครับ มาดาม อะไรทำให้คุณ ได้รับแรงบันดาลใจ ขณะอ่านหนังสือเล่มนี้? f: ขณะที่ฉันอ่านหนังสือเล่มนี้ ฉันรู้สึกมีความสุขมาก ๆ เพราะมันเป็นภาษา ที่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน และฉันเกือบจะเรียนรู้มันได้แล้ว มันทำให้หัวใจฉันอบอุ่น และมีความสุข อย่างมาก เพราะนกและสัตว์ต่าง ๆ เป็นพี่น้องของเรา แต่แทนที่จะปกป้องพวกเขา เรากลับ ทำร้ายพวกเขา ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม หนังสือเล่มนี้ เป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับฉัน และฉันรู้สึกขอบพระคุณ ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่เป็นอย่างมาก สำหรับผลงานชิ้นนี้ เพราะไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ และไม่ใช่ว่าใคร ๆ ก็ทำได้ Photo Caption: ทุกคนชื่นชอบพระจันทร์ที่งดงาม มีเอกลักษณ์
